อารมณ์ ความรู้สึก และสิ่งที่มองเห็นจากการศึกระหว่าง ดอร์ทมุนด์ กับ ชาลเก้ 04 เมื่อคืน หลังเกมฟาดแข้ง และฟุตบอลบุนเดสลีกากลับมาอีกครั้ง
5 ประเด็นหลังเกมดาร์บี้แมตช์บุนเดสลีกา

1. บรรยากาศโดยรวมดร็อปลงไปพอสมควร เมื่อไม่มีแฟนบอลในสนาม เฉพาะอย่างเกมนี้คือ ดาร์บี้ แมตช์ อันดับหนึ่งของเยอรมันที่อุดมด้วยความเดือดดาลมากที่สุด
มันดูซึมๆเศร้าๆเหงาๆยังไงพิกล อารมณ์คล้ายๆดูไทยลีก เมื่อ 15 ปีก่อน แต่การไม่มีเสียงเชียร์ก็ช่วยให้ได้ยินเสียงสตั๊ดกระแทกลูกหนังกับเสียงของพวกสต๊าฟโค้ชที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ถือว่าได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ที่สำคัญคืออย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าไม่มีฟุตบอลให้ดูเลย แถมช่วยแก้ขัดได้ในระดับหนึ่ง เพราะปกติธรรมดา ผมก็ไม่ค่อยดูบุนเดสลีกาอยู่แล้ว !!!

2. ตัวอย่างของการกลับมาแข่งขันฟุตบอลใหม่ มันก็ไม่ได้ยากลำบาก หรือวุ่นวายอะไรนี่หว่า
ตัวสำรองก็นั่งห่างๆกัน – ไม่มีการจับมือหรือสวมกอดกันทั้งก่อนและหลังเกม – การแสดงความดีใจ หลังทำประตูได้แบบเว้นระยะห่าง มันก็แปลกตาไปอีกแบบ
แฟนบอลก็ไม่ได้มาชุมนุมกันหน้าสนาม ไม่มีอะไรผิดพลาด ไม่มีปัญหา ดูแล้วพรีเมียร์ลีกก็น่าจะกลับมาเตะกันได้ในไม่ช้า

3. รูปเกมในสนามก็ปกติดีนะ ความฟิตของผู้เล่นอาจไม่เต็มร้อยก็จริงจนพอมองออกได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของเกมโดยรวมสักเท่าไหร่
อัตราความสนุกสนานอาจไม่เยอะมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อ โดยภาพรวมทั้งเรื่องเกม และบรรยากาศถือว่าโอเคนะคะ – ดีกว่าไม่มีอะไรดู

4. น่าเสียดายที่ เจดอน ซานโช่ ไม่ได้ลงตัวจริง กว่าจะลงมาช่วงท้ายเกม เสือเหลืองก็นำห่างแล้ว แต่ยังดีที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แบบเต็มๆ
หัวหอกตัวนี้ตัวใหญ่ แต่คล่อง เก็บบอลได้ ครองบอลดี วิ่งหาช่องปราดเปรียว ยิงได้ จ่ายได้ อนาคตดาวยิงอันดับหนึ่งของแผ่นดินอย่างแน่นอน

5. ชาลเก้ 04 นี่แม่งโคตรอู๊ดดี้ ตอนแรกนึกว่าจะมีทีเด็ดกว่านี้ในเมื่อมันเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่ไหนได้ หมูมาก ขอบอก
จ่ายบอลกันสะเปะสะปะ ขาดๆเกินๆตลอดเวลา เกมรับห่วยแตก เกมรุกสากกะเบือยังต้องยกมือไหว้
ขอโทษ…นี่ขนาดไม่มีกองเชียร์เจ้าบ้านคอยข่มขวัญก็ยังอุตส่าห์เละซะอย่างนั้น
สรุปว่าภาพรวมของการกลับมาของเกมลูกหนัง ถือว่าไม่เลว แก้ความกระสันได้ ช่วยให้หายอยาก และทำให้ความหวังเปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง